นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2568 ในวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า และผู้แทนเข้าร่วมประชุม จำนวน 42 ท่าน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมประชุม
ก่อนเริ่มการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า และคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดการประชุมและมอบนโยบายต่อหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าว่า ปัจจุบันมีงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 1.46 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถผลักดัน GDP ให้ขยายตัวได้ 3% ประกอบด้วย งบค้างท่อมาจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 275,009 ล้านบาท งบลงทุนในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 932,402 ล้านบาท และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ จำนวน 253,545 ล้านบาท แต่ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนอยู่ที่ 28.12% ต่ำกว่าเป้าหมายครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่ต้องช่วยกันกำกับดูแลและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้น GDP ของประเทศ โดยกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบลงทุนมากที่สุด ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงรัฐวิสาหกิจ จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการทุกท่านใช้ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็น KPI ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของอธิบดีและหัวหน้าหน่วยงานในกำกับต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการรับมือกับปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ฝุ่นควัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม เป็นต้น โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมการและวางแผนการทำงานล่วงหน้า ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ดังนั้น หากสามารถป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นได้ น่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่ามาก จึงขอให้ทุกท่านช่วยกันอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายกรัฐนตรียังได้กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว ทั้งในเรื่องของน้ำประปาน้ำบาดาล น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงน้ำที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ค่อนข้างมาก โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน หากพบปัญหาอุปสรรคหรือต้องการรับการสนับสนุนในเรื่องใด ขอให้มีการนัดหมายเพื่อหารือเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการนำเสนอข้อมูลบทบาท ภารกิจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหัวหน้าส่วนราชการในประเด็นต่าง ๆ เช่น ภาพรวมการดำเนินการด้านทรัพยากรธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐและการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน สถานการณ์น้ำและมาตรการรับมือฤดูฝนในปี 2568 ผลการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาคอุตสาหกรรม การแก้ไขปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา การแก้ไขปัญหาคนต่างด้าว การปราบปรามการค้ายาเสพติด และอาชญากรรมออนไลน์ เป็นต้น
ภาพจาก : www.thaigov.go.th, www.mnre.go.th